บล็อกนี้ได้จัดทำขึ้น เพื่อรวบรวมคำอธิบายกฎหมาย บทความทางกฎหมาย ข้อมูลข่าวสารต่างๆ และสื่ออื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายไว้ใช้สำหรับการศึกษาวิชาทางกฎหมาย เพื่อเป็นประโยชน์และเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในผู้ศึกษาวิชากฎหมาย และบุคคลทั่วไป

วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สรุปกฎหมายตั๋วเงิน


สรุปกฎหมายตั๋วเงิน

1ลักษณะทั่วไปของตั๋วเงิน
-ตั๋วเงินเป็นสัญญา
-ตั๋วเงินเป็นตราสาร
-ตั๋วเงินมีวัตถุแห่งนี้เป็นการชำระเงิน
-ตั๋วเงินเป็นตราสารเปลี่ยนมือได้
-ตั๋วเงิน ไม่ใช่การแปลงหนี้ใหม่
-ตั๋วเงินมีคู่สัญญาหลายฝ่าย
ประเภทของตั๋วเงิน ม.898
ตาม ป.พ.พ มี 3 ประเภท คือ
ตั๋วแลกเงิน (ผู้เกี่ยวข้อง คือ ผู้สั่งจ่าย-ผู้จ่าย-ผู้รับเงิน)
ตั๋วสัญญาใช้เงิน (ผู้เกี่ยวข้อง คือ ผู้ออกตั๋ว-ผู้รับเงิน)
เช็ค (ผู้เกี่ยวข้อง คือ ผู้สั่งจ่าย-ธนาคาร/ผู้จ่าย-ผู้รับเงิน)
2. ตั๋วเงินแต่ละประเภทก็ต้องมีรายการตามที่กฎหมายกำหนดอย่างครบถ้วน
- ตั๋วแลกเงิน ( ม.909 )
-ตั๋วสัญญาใช้เงิน ( ม.983 )
-เช็ค ( ม.988 )
มาตรา 898 อันตั๋วเงินตามความหมายแห่งประมวลกฎหมาย นี้มีสามประเภท ๆ หนึ่งคือ ตั๋วแลกเงิน ประเภทหนึ่งคือ ตั๋วสัญญา ใช้เงิน ประเภทหนึ่งคือเช็ค


2 คู่สัญญาในตั๋วเงินคู่สัญญาในตั๋วเงิน
เจ้าหนี้: มี
ผู้ทรง : มี
ผู้ทรงตามมาตรา 904
ผู้สืบสิทธิของผู้ทรง ( ทายาทผู้รับมรดกของผู้ทรง / นิติบุคคลที่ควบกิจการกัน) ที่ไม่จำเป็นต้องมีการโอนตั๋วเงินให้กันตามกฎหมาย
อื่น ๆ นอกจากผู้ทรง : มี
คู่สัญญาในตั๋วเงินที่เข้าถือเอา และใช้เงินตามตั๋ว ตามมาตรา 969
คู่สัญญาซึ่งต้องรับผิดและถูกไล่เบี้ย หรืออยู่ในฐานะจะถูกไล่เบี้ย ที่เข้าใช้เงินแล้วเรียกให้เขาสละตั๋วให้แก่ตน ตามมาตรา 970
ผู้สลักหลังโอนตั๋วไปแล้วต่อมากลับเป็นผู้รับสลักหลังตั๋วใบนั้นอีก ตามมาตรา 971
ผู้รับอาวัลที่ได้ใช้เงินแล้ว ตามมาตรา 940 ว.3
ผู้เข้าแก้หน้าที่ใช้เงินแทนผู้ทรงไปแล้ว ตามมาตรา 958 ว. 1 ( ตาม ม.967 )
ลูกหนี้: มี
ผู้สั่งจ่าย / ผู้สลักหลังตั๋วเงิน
ผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงิน
ผู้รับรองตั๋วแลกเงิน
ผู้รับอาวัล
ผู้สอดเข้าแก้หน้า
ธนาคารผู้จดรับรู้ในเช็ค
ผู้ทรง ตามมาตรา 904


3 การโอนตั๋วเงิน
ปพพ. มาตรา ๙๑๗(ตั๋วเงินชนิดระบุชื่อผู้รับโอน ม917วรรคแรก)
            อัน ตั๋วแลกเงิน ทุกฉบับ ถึงแม้ว่า จะมิใช่ สั่งจ่าย ให้แก่บุคคล เพื่อเขาสั่ง ก็ตาม ท่านว่า ย่อมโอนให้กัน ได้ด้วย สลักหลัง และ ส่งมอบ
            เมื่อ ผู้สั่งจ่าย เขียนลงใน ด้านหน้า แห่ง ตั๋วแลกเงิน ว่า " เปลี่ยนมือไม่ได้ " ดั่งนี้ ก็ดี หรือ เขียนคำอื่น อันได้ความเป็น ทำนองเช่นเดียวกันนั้น ก็ดี ท่านว่า ตั๋วเงินนั้น ย่อมจะโอนให้กัน ได้แต่โดย รูปการ และ ด้วยผลอย่าง การโอนสามัญ
            อนึ่ง ตั๋วเงิน จะ สลักหลัง ให้แก่ ผู้จ่าย ก็ได้ ไม่ว่า ผู้จ่าย จะได้ รับรอง ตั๋วนั้น หรือไม่ หรือ จะสลักหลัง ให้แก่ ผู้สั่งจ่าย หรือ ให้แก่ คู่สัญญา ฝ่ายอื่นใด แห่ง ตั๋วเงินนั้น ก็ได้ ส่วนบุคคลทั้งหลาย เหล่านี้ ก็ย่อมจะ สลักหลัง ตั๋วเงินนั้น ต่อไปอีกได้
ตั๋วเงินชนิดสั่งจ่ายแก่ผู้ถือ  918,921มาตรา 918 ตั๋วแลกเงินอันสั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือนั้น ท่านว่าย่อมโอนไปเพียงด้วยส่งมอบให้กัน
มาตรา 921
มาตรา 921 การสลักหลังตั๋วแลกเงินซึ่งสั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือนั้นย่อมเป็นเพียงประกัน (อาวัล) สำหรับผู้สั่งจ่าย
สองมาตรานี้เป็นบทบัญญัติเรื่องตั๋วผู้ถือเราไปใช้ในเรื่องเช็คด้วยตามมาตรา 989
ผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย
ปพพ. มาตรา ๙๐๔
            อัน ผู้ทรง นั้น หมายความว่า บุคคล ผู้มี ตั๋วเงิน ไว้ในครอบครอง โดยฐานเป็น ผู้รับเงิน หรือ เป็น ผู้รับ สลักหลัง ถ้าและ เป็น ตั๋วเงิน สั่งจ่ายให้แก่ ผู้ถือ ๆ ก็นับว่า เป็น ผู้ทรง เหมือนกัน
917มาตรา 917 อันตั๋วแลกเงินทุกฉบับ ถึงแม้ว่าจะมิใช่สั่งจ่ายให้แก่ บุคคลเพื่อเขาสั่งก็ตาม ท่านว่าย่อมโอนให้กันได้ด้วยสลักหลังและส่งมอบ
920มาตรา 920 อันการสลักหลังย่อมโอนไปซึ่งบรรดาสิทธิอันเกิดแต่ ตั๋วแลกเงิน
ถ้าสลักหลังลอย ผู้ทรงจะปฏิบัติดั่งกล่าวต่อไปนี้ประการหนึ่ง ประการใดก็ ได้ คือ
(1) กรอกความลงในที่ว่างด้วยเขียนชื่อของตนเอง หรือชื่อบุคคลอื่น ผู้ใดผู้หนึ่ง
(2) สลักหลังตั๋วเงินต่อไปอีกเป็นสลักหลังลอย หรือสลักหลังให้ แก่บุคคลอื่นผู้ใดผู้หนึ่ง
(3) โอนตั๋วเงินนั้นให้ไปแก่บุคคลภายนอก โดยไม่กรอกความลง ในที่ว่าง และไม่สลักหลังอย่างหนึ่งอย่างใด
905 วรรคแรก ปพพ. มาตรา ๙๐๕
            ภายในบังคับ แห่ง บทบัญญัติ มาตรา ๑๐๐๘ บุคคล ผู้ได้ ตั๋วเงิน ไว้ในครอบครอง ถ้า แสดงให้ปรากฏสิทธิ ด้วย การสลักหลัง ไม่ขาดสาย แม้ถึงว่า การสลักหลัง รายที่สุด จะเป็น สลักหลังลอย ก็ตาม ท่านให้ถือว่า เป็น ผู้ทรง โดยชอบด้วยกฎหมาย เมื่อใด รายการสลักหลังลอย มี สลักหลัง รายอื่น ตามหลังไปอีก ท่านให้ถือว่า บุคคล ผู้ที่ ลงลายมือชื่อ ในการสลักหลัง รายที่สุดนั้น เป็นผู้ได้ไป ซึ่ง ตั๋วเงิน ด้วยการ สลักหลังลอย อนึ่ง คำสลักหลัง เมื่อ ขีดฆ่าเสียแล้ว ท่านให้ถือเสมือนว่า มิได้มีเลย
ประกอบกับ 919ปพพ. มาตรา ๙๑๙
            คำสลักหลังนั้น ต้องเขียนลงใน ตั๋วแลกเงิน หรือ ใบประจำต่อ และ ต้อง ลงลายมือชื่อ ผู้สลักหลัง
            การสลักหลัง ย่อมสมบูรณ์ แม้ทั้ง มิได้ระบุชื่อ ผู้รับประโยชน์ไว้ด้วย หรือแม้ ผู้สลักหลัง จะมิได้กระทำอะไร ยิ่งไปกว่า ลงลายมือชื่อ ของตน ที่ด้านหลัง ตั๋วแลกเงิน หรือ ที่ ใบประจำต่อ ก็ย่อมฟัง เป็นสมบูรณ์ ดุจกัน การสลักหลัง เช่นนี้ ท่านเรียกว่า " สลักหลังลอย "
สิทธิทั้งหลายอันเกิดจากตั๋วเงิน
ม.920วรรคแรกมาตรา 920 อันการสลักหลังย่อมโอนไปซึ่งบรรดาสิทธิอันเกิดแต่ ตั๋วแลกเงิน
การสลักหลังโอนโดยมีเงื่อนไข มาตรา 922 การสลักหลังนั้นต้องให้เป็นข้อความอันปราศจากเงื่อนไข ถ้าและวางเงื่อนไขบังคับลงไว้อย่างใด ท่านให้ถือเสมือนว่าข้อเงื่อนไขนั้น มิได้เขียนลงไว้เลย
การสลักหลังแต่พียงบางส่วน มาตรา 922วรรคสุดท้ายอนึ่ง การสลักหลังโอนแต่บางส่วน ท่านว่าเป็นโมฆะ
การลงข้อกำหนดลบล้างหรือจำกัดความรับผิด การลงข้อกำหนดลดละหน้าที่ให้แก่ผู้ทรง
มาตรา 915 ผู้สั่งจ่ายตั๋วแลกเงินและผู้สลักหลังคนใด ๆ ก็ดีจะจด ข้อกำหนดซึ่งจะกล่าวต่อไปนี้ลงไว้ชัดแจ้งในตั๋วนั้นก็ได้ คือ
(1) ข้อกำหนดลบล้าง หรือจำกัดความรับผิดของตนเองต่อผู้ทรง ตั๋วเงิน
(2) ข้อกำหนดยอมลดละให้แก่ผู้ทรงตั๋วเงินซึ่งหน้าที่ทั้งหลาย อันผู้ทรงจะพึงต้องมีแก่ตนบางอย่างหรือทั้งหมด
การสั่งห้ามโอนตั๋วเงิน
ผู้สั้งจ่าย มาตรา 917 วรรคสองเมื่อผู้สั่งจ่ายเขียนลงในด้านหน้าแห่งตั๋วแลกเงินว่า "เปลี่ยนมือไม่ได้" ดั่งนี้ก็ดี หรือเขียนคำอื่นอันได้ความเป็นทำนองเช่นเดียวกันนั้นก็ดี ท่านว่าตั๋วเงินนั้นย่อมจะโอนให้กันได้แต่โดยรูปการและด้วยผลอย่างการ โอนสามัญ
ผู้สลักหลัง มาตรา 923 ผู้สลักหลังคนใดระบุข้อความห้ามสลักหลังสืบไปลง ไว้แล้วผู้สลักหลังคนนั้นย่อมไม่ต้องรับผิดต่อบุคคล อันเขาสลักหลัง ตั๋วแลกเงินนั้นให้ไปในภายหลัง


4. การเขียนข้อความลงบนตั๋วเงิน มาตรา 899มาตรา 899 ข้อความอันใดซึ่งมิได้มีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมาย ลักษณะนี้ ถ้าเขียนลงในตั๋วเงิน ท่านว่าข้อความอันนั้นหาเป็นผล อย่างหนึ่งอย่างใดแก่ตั๋วเงินนั้นไม่


5. การลงลายมือชื่อเอาไว้ในตั๋วเงินมาตรา 900 บุคคลผู้ลงลายมือชื่อของตนในตั๋วเงินย่อมจะได้รับ ผิดตามเนื้อความในตั๋วเงินนั้น
ถ้าลงเพียงแต่เครื่องหมายแต่อย่างหนึ่งอย่างใด เช่น แกงได หรือ ลายพิมพ์นิ้วมือ อ้างเอาเป็นลายมือชื่อในตั๋วเงินไซร้ แม้ถึงว่าจะมี พยานลงชื่อรับรองก็ตาม ท่านว่าหาให้ผลเป็นลงลายมือชื่อในตั๋วเงิน นั้นไม่


6. การลงลายมือชื่อในฐานะตัวแทน มาตรา 901 ถ้าบุคคลคนใดลงลายมือชื่อของตนในตั๋วเงิน และมิได้ เขียนแถลงว่ากระทำการแทนบุคคลอีกคนหนึ่งไซร้ ท่านว่าบุคคลคนนั้น ย่อมเป็นผู้รับผิดตามความในตั๋วเงินนั้น
การลงลายมือชื่อของผู้แทนนิติกรรม  มาตรา    70วรรค สองมาตรา 70  นิติบุคคลต้องมีผู้แทนคนหนึ่งหรือหลายคน ทั้งนี้ตามที่กฎหมายข้อบังคับ หรือตราสารจัดตั้งจะได้กำหนดไว้
ความประสงค์ของนิติบุคคลย่อมแสดงออกโดยผู้แทนของนิติบุคคล
กรณีลายมือชื่อของคู่สัญญาในตั๋วเงินบางคนมาสมบูรณ์ มาตรา 902 ถ้าตั๋วเงินลงลายมือชื่อของบุคคลหลายคน มีทั้งบุคคล ซึ่งไม่อาจจะเป็นคู่สัญญาแห่งตั๋วเงินนั้นได้เลย หรือเป็นได้แต่ไม่เต็มผล ไซร้ ท่านว่าการนี้ย่อมไม่กระทบกระทั่งถึงความรับผิดของบุคคลอื่น ๆ นอกนั้น ซึ่งคงต้องรับผิดตามตั๋วเงิน
การที่ผู้ทรงผ่อนเวลาให้กับผู้จ่ายมาตรา 903 ในการใช้เงินตามตั๋วเงิน ท่านมิให้ให้วันผ่อน
มาตรา 948 ถ้าผู้ทรงตั๋วแลกเงินยอมผ่อนเวลาให้แก่ผู้จ่ายไซร้ท่านว่า ผู้ทรงสิ้นสิทธิที่จะไล่เบี้ยเอาแก่ผู้เป็นคู่สัญญาคนก่อน ๆ ซึ่งมิได้ตกลงใน การผ่อนเวลานั้น
มาตรา 906 คำว่าคู่สัญญาคนก่อน ๆ นั้น รวมทั้งผู้สั่งจ่ายหรือ ผู้ออกตั๋วเงินและผู้สลักหลังคนก่อน ๆ ด้วย
คุณสมบัติของผู้ทรง มาตรา 904มาตรา 904 อันผู้ทรงนั้น หมายความว่า บุคคลผู้มีตั๋วเงินไว้ใน ครอบครองโดยฐานเป็นผู้รับเงิน หรือเป็นผู้รับสลักหลัง ถ้าและเป็น ตั๋วเงินสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือ ๆ ก็นับว่าเป็นผู้ทรงเหมือนกัน
10.       ผู้ทรงโดยชอบด้วยกฏหมาย มาตรา 905 วรรคแรก มาตรา 905 ภายในบังคับแห่งบทบัญญัติ มาตรา 1008 บุคคลผู้ได้ตั๋วเงินไว้ในครอบครอง ถ้าแสดงให้ปรากฏสิทธิด้วยการสลักหลัง ไม่ขาดสาย แม้ถึงว่าการสลักหลังรายที่สุดจะเป็นสลักหลังลอยก็ตาม ท่านให้ถือว่าเป็นผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย เมื่อใดรายการสลักหลัง ลอยมีสลักหลังรายอื่นตามหลัง ไปอีกท่านให้ถือว่าบุคคลผู้ที่ลงลายชื่อ ในการสลักหลังรายที่สุดนั้นเป็นผู้ได้ซึ่งตั๋วเงินด้วยการสลักหลังลอย อนึ่ง คำสลักหลัง เมื่อขีดฆ่าเสียแล้ว ท่านให้ถือว่าเสมือนว่ามิได้มีเลย
การขีดฆ่าคำสลักหลัง มาตรา 905วรรคแรก ภายในบังคับแห่งบทบัญญัติ มาตรา 1008 บุคคลผู้ได้ตั๋วเงินไว้ในครอบครอง ถ้าแสดงให้ปรากฏสิทธิด้วยการสลักหลัง ไม่ขาดสาย แม้ถึงว่าการสลักหลังรายที่สุดจะเป็นสลักหลังลอยก็ตาม ท่านให้ถือว่าเป็นผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย เมื่อใดรายการสลักหลัง ลอยมีสลักหลังรายอื่นตามหลัง ไปอีกท่านให้ถือว่าบุคคลผู้ที่ลงลายชื่อ ในการสลักหลังรายที่สุดนั้นเป็นผู้ได้ซึ่งตั๋วเงินด้วยการสลักหลังลอย อนึ่ง คำสลักหลัง เมื่อขีดฆ่าเสียแล้ว ท่านให้ถือว่าเสมือนว่ามิได้มีเลย
มาตรา 970วรรคท้าย ผู้สลักหลังทุกคน ซึ่ง เข้าถือเอา และ ใช้เงิน ตามตั๋วแลกเงินแล้ว จะขีดฆ่า คำสลักหลัง ของตนเอง และ ของเหล่าผู้สลักหลัง ภายหลังตนนั้นเสีย ก็ได้
การเรียกร้องเอาตั๋วเงินคืนจากผู้ทรง
ตั๋วระบุชื่อ 905 วรรคสองถ้าบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดปราศจากตั๋วเงินไปจากครอบครอง ท่านว่าผู้ ทรงซึ่งแสดงให้ปรากฏสิทธิของตนในตั๋วตามวิธีการดั่งกล่าวมาใน วรรคก่อนนั้น หาจำต้องสลักตั๋วเงินไม่ เว้นแต่จะได้มาโดยทุจริต หรือได้มาด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง
ตั๋วผู้ถือ 905 วรรคท้ายอนึ่ง ข้อความในวรรคก่อนนี้ ให้ใช้บังคับตลอดถึงผู้ทรงตั๋วเงินสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือด้วย


11.ความหมายของคำว่า คู่สัญญาคนก่อนๆ มาตรา 906
        มาตรา 906 คำว่าคู่สัญญาคนก่อน ๆ นั้น รวมทั้งผู้สั่งจ่ายหรือ ผู้ออกตั๋วเงินและผู้สลักหลังคนก่อน ๆ ด้วย


12.ใบประจำต่อมาตรา  907
มาตรา 907 เมื่อใดไม่มีที่ในตั๋วเงินซึ่งจะสลักหลังได้ต่อไปไซร้ ท่านอนุญาตให้เอากระดาษแผ่นหนึ่งผนึกต่อเข้ากับตั๋วเงินเรียกว่าใบ ประจำต่อนับเป็นส่วนหนึ่งแห่งตั๋วเงินนั้น
การสลักหลังในใบประจำต่อครั้งแรกต้องเขียนคาบบนตั๋วเงินเดิมบ้างบน บประจำต่อบ้าง


ตั๋วแลกเงิน


13.ความหมายของตั๋วแลกเงิน มาตรา 908
      มาตรา 908 อันว่าตั๋วแลกเงินนั้น คือหนังสือตราสาร ซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่าผู้สั่งจ่าย สั่งบุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่าผู้จ่ายให้ใช้เงินจำนวนหนึ่ง แก่บุคคลคนหนึ่ง หรือให้ใช้ตามคำสั่งของบุคคลคนหนึ่ง ซึ่งเรียกว่าผู้รับเงิน


14.รายการต่างๆที่ต้องมีในตั๋วแลกเงิน มาตรา 909 ,มาตรา910
 มาตรา 909 อันตั๋วแลกเงินนั้น ต้องมีรายการดั่งกล่าวต่อไปนี้ คือ
(1) คำบอกชื่อว่าเป็นตั๋วแลกเงิน
(2) คำสั่งอันปราศจากเงื่อนไขให้จ่ายเงินเป็นจำนวนแน่นอน
(3) ชื่อหรือยี่ห้อผู้จ่าย
(4) วันถึงกำหนดใช้เงิน
(5) สถานที่ใช้เงิน
(6) ชื่อหรือยี่ห้อผู้รับเงิน หรือคำจดแจ้งว่าให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ
(7) วันและสถานที่ออกตั๋วเงิน
(8) ลายมือชื่อผู้สั่งจ่าย
และมาตรา 910มาตรา 910 ตราสารอันมีรายการขาดตกบกพร่องไปจากที่ท่านระบุบัง คับไว้ใน มาตรา ก่อนนี้ ย่อมไม่สมบูรณ์เป็นตั๋วแลกเงิน เว้นแต่กรณีดั่งจะกล่าว ดังต่อไปนี้ คือ
ตั๋วแลกเงินซึ่งไม่ระบุเวลาใช้เงิน ท่านให้ถือว่าพึงใช้เงินเมื่อได้เห็น
ถ้าสถานที่ใช้เงินมิได้แถลงไว้ในตั๋วแลกเงิน ท่านให้ถือเอาภูมิลำเนาของ ผู้จ่ายเป็นสถานที่ใช้เงิน

ถ้าตั๋วแลกเงินไม่แสดงให้ปรากฏสถานที่ออกตั๋ว ท่านให้ถือว่าตั๋วเงินนั้นได้ ออก ณ ภูมิลำเนาของผู้สั่งจ่าย
ถ้ามิได้ลงวันออกตั๋ว ท่านว่าผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย คนหนึ่งคนใดทำ การโดยสุจริต จะจดวันที่ถูกต้องแท้จริงลงก็ได้


15 การกำหนดดอกเบี้ยลงในตั๋วเงิน มาตรา 911
     มาตรา 911 ผู้สั่งจ่ายจะเขียนข้อความกำหนดลงไว้ว่าจำนวนเงินอันจะ พึงใช้นั้นให้คิดดอกเบี้ยด้วยก็ได้ และในกรณีเช่นนั้น ถ้ามิได้กล่าวลงไว้เป็น อย่างอื่น ท่านว่าดอกเบี้ยย่อมคิดแต่วันที่ลงในตั๋วเงิน


16.บุคคลที่เกี่ยวข้องกับตั๋วแลกเงินในเบื้องต้น มาตรา .912
       มาตรา 912 อันตั๋วแลกเงินนั้นจะออกสั่งให้ใช้เงินตามคำสั่งของ ผู้สั่งจ่ายก็ได้
อนึ่ง จะสั่งจ่ายเอาจากตัวผู้สั่งจ่ายเอง หรือสั่งจ่ายเพื่อบุคคล ภายนอกก็ได้


17 วันที่ถึงกำหนดใช้เงิน มาตรา 913
มาตรา 913 อันวันถึงกำหนดของตั๋วแลกเงินนั้น ท่านว่าย่อมเป็น อย่างใดอย่างหนึ่งดั่งกล่าวต่อไปนี้ คือ
(1) ในวันใดวันหนึ่งที่กำหนดไว้ หรือ
(2) เมื่อสิ้นระยะเวลาอันกำหนดไว้นับแต่วันที่ลงในตั๋วนั้น หรือ


18 ความผูกพันของผู้สั่งจ่าย และผู้สลักหลังมาตรา 914
มาตรา 914 บุคคลผู้สั่งจ่ายหรือสลักหลังตั๋วแลกเงินย่อมเป็นอัน สัญญาว่าเมื่อตั๋วนั้นได้นำยื่นโดยชอบแล้วจะมีผู้รับรอง และใช้เงินตาม เนื้อความแห่งตั๋วถ้าและตั๋วแลกเงินนั้นเขาไม่เชื่อถือโดยไม่ยอมรับรอง ก็ดีหรือไม่ยอมจ่ายเงินก็ดี ผู้สั่งจ่ายหรือผู้สลักหลังก็จะใช้เงินแก่ผู้ทรง หรือแก่ผู้สลักหลังคนหลังซึ่งต้องถูกบังคับให้ใช้เงินตามตั๋วนั้น ถ้า หากว่าได้ทำถูกต้องตามวิธีการในข้อไม่รับรองหรือไม่จ่ายเงินนั้นแล้ว
(3) เมื่อทวงถาม หรือเมื่อได้เห็น หรือ
(4) เมื่อสิ้นระยะเวลาอันกำหนดไว้นับแต่ได้เห็น


19.การที่ถูกฟ้องในมูลตั๋วเงินยกข้อต่อสู้กับผู้ทรงมาตรา 916มาตรา 916 บุคคลทั้งหลายผู้ถูกฟ้องในมูลตั๋วแลกเงินหาอาจจะ ต่อสู้ผู้ทรงด้วยข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันกัน เฉพาะบุคคลระหว่าง ตนกับผู้สั่งจ่ายหรือกับผู้ทรงคนก่อน ๆ นั้นได้ไม่ เว้นแต่การโอนจะ ได้มีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉล


20.การรับรองตั๋วแลกเงิน มาตรา 927 ,928, 931, 934 ,935, 937
  มาตรา 927 อันตั๋วแลกเงินนั้นจะนำไปยื่นแก่ผู้จ่าย ณ ที่อยู่ของผู้จ่าย เพื่อให้รับรองเมื่อไร ๆ ก็ได้ จนกว่าจะถึงเวลากำหนดใช้เงิน และผู้ทรงจะ เป็นผู้ยื่น หรือเพียงแต่ผู้ที่ได้ตั๋วนั้นไว้ในครอบครองจะเป็นผู้นำไปยื่นก็ได้
ในตั๋วแลกเงินนั้น ผู้สั่งจ่ายจะลงข้อกำหนดไว้ว่าให้นำยื่นเพื่อรับรองโดย กำหนดเวลาจำกัดไว้ให้ยื่น หรือไม่กำหนดเวลาก็ได้
ผู้สั่งจ่ายจะห้ามการนำตั๋วแลกเงินยื่นเพื่อรับรองก็ได้ เว้นแต่ในกรณีที่
เป็นตั๋วเงินอันได้ออกสั่งให้ใช้เงินเฉพาะ ณ สถานที่อื่นใดอันมิใช่ภูมิลำเนาของ ผู้จ่าย หรือได้ออกสั่งให้ใช้เงินในเวลาใดเวลาหนึ่ง นับแต่ได้เห็น
อนึ่ง ผู้สั่งจ่ายจะลงข้อกำหนดไว้ว่ายังมิให้นำตั๋วยื่นเพื่อให้รับรองก่อน ถึงกำหนดวันใดวันหนึ่งก็ได้
ผู้สลักหลังทุกคนจะลงข้อกำหนดไว้ว่า ให้นำตั๋วเงินยื่นเพื่อรับรองโดย กำหนดเวลาจำกัดไว้ให้ยื่น หรือไม่กำหนดเวลาก็ได้ เว้นแต่ผู้สั่งจ่ายจะได้ ห้ามการรับรอง
 มาตรา 928 ผู้ทรงตั๋วแลกเงินอันสั่งให้ใช้เงินเมื่อสิ้นระยะเวลากำหนด อย่างใดอย่างหนึ่งนับแต่ได้เห็นนั้น ต้องนำตั๋วเงินยื่นเพื่อให้รับรองภายใน หกเดือนนับแต่วันที่ลงในตั๋วเงิน หรือภายในเวลาช้าเร็วกว่านั้นตามแต่ ผู้สั่งจ่ายจะได้ระบุไว้
 มาตรา 929 ภายในบังคับบทบัญญัติ มาตรา 927 ผู้ทรงตั๋วแลกเงิน มีสิทธิที่จะยื่นตั๋วเงินแก่ผู้จ่ายได้ในทันใดเพื่อให้รับรอง ถ้าและเขาไม่ รับรองภายในเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงไซร้ ผู้ทรงก็มีสิทธิที่จะคัดค้าน
 มาตรา 930 ในการยื่นตั๋วแลกเงินเพื่อให้เขารับรองนั้น ผู้ทรง ไม่จำต้องปล่อยตั๋วนั้นให้ไว้ในมือผู้จ่าย
อนึ่ง ผู้จ่ายจะเรียกให้ยื่นตั๋วแลกเงินอีกเป็นครั้งที่สองในวันรุ่งขึ้น แต่วันที่ยื่นครั้งแรกนั้นก็ได้ ท่านห้ามมิให้คู่กรณีที่มีส่วนได้เสียยกเอา การที่มีอนุวรรตน์ตามคำเรียกอันนี้ขึ้นเป็นข้อต่อสู้ เว้นแต่การเรียก นั้นได้ระบุในคำคัดค้าน
 มาตรา 931 การรับรองนั้นพึงกระทำด้วยเขียนลงไว้ในด้านหน้า แห่งตั๋วแลกเงินเป็นถ้อยคำสำนวนว่า "รับรองแล้ว" หรือความอย่าง อื่นทำนองเช่นเดียวกันนั้น และลงลายมือชื่อของผู้จ่าย อนึ่งแต่เพียง ลายมือชื่อของผู้จ่ายลงไว้ในด้านหน้าแห่งตั๋วแลกเงิน ท่านก็จัดว่าเป็น คำรับรองแล้ว
 มาตรา 932 ตั๋วแลกเงินฉบับใดเขียนสั่งให้ใช้เงินในกำหนดระยะเวลา อย่างใดอย่างหนึ่งนับแต่วันที่ลงในตั๋วเงินนั้น แต่หากมิได้ลงวันไว้ก็ดี หรือตั๋วเงินฉบับใดสั่งให้ใช้เงินในกำหนดระยะเวลาอย่างใดอย่างหนึ่ง นับแต่ได้เห็น แต่หากคำรับรองตั๋วนั้นมิได้ลงวันไว้ก็ดี ตั๋วแลกเงิน เช่นว่ามานี้ท่านว่าผู้ทรงจะจดวันออกตั๋วหรือวันรับรองลงตามที่แท้จริง ก็ได้ แล้วพึงให้ใช้เงินตามนั้น
อนึ่ง ท่านบัญญัติไว้ว่า ในกรณีที่ผู้ทรงทำการโดยสุจริตแต่ลงวัน คลาดเคลื่อนไปด้วยสำคัญผิด และในกรณีลงวันผิดทุกสถาน หากว่า ในภายหลังตั๋วเงินนั้นตกไปยังมือผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ตั๋วเงินจะเสียไปเพราะเหตุก็หาไม่ ท่านให้คงเป็นตั๋วเงินที่ใช้ได้ และ พึงใช้เงินกันเสมือนดั่งว่าวันที่ได้จดลงนั้นเป็นวันที่ถูกต้องแท้จริง
 มาตรา 933 ถ้าการรับรองมิได้ลงวัน ท่านให้ถือเอาวันสุดท้าย แห่งระยะเวลาอันกำหนดไว้เพื่อรับรองนั้นเป็นวันรับรอง
 มาตรา 934 ถ้าผู้จ่ายเขียนคำรับรองลงในตั๋วแลกเงินแล้ว แต่หาก กลับขีดฆ่าเสียก่อนตั๋วเงินนั้นหลุดพ้นไปจากมือตนไซร้ ท่านให้ถือเป็น อันว่าได้บอกปัดไม่รับรอง แต่ถ้าผู้จ่ายได้แจ้งความเป็นหนังสือไปยัง ผู้ทรง หรือคู่สัญญาฝ่ายอื่นซึ่งได้ลงนามในตั๋วเงินว่าตนรับรองตั๋วเงิน นั้นก่อนแล้วจึ่งมาขีดฆ่าคำรับรองต่อภายหลังไซร้ ท่านว่าผู้จ่ายก็คง ต้องผูกพันอยู่ตามเนื้อความที่ตนได้เขียนรับรองนั้นเอง
 มาตรา 935 อันการรับรองนั้นย่อมมีได้สองสถาน คือรับรองตลอดไป หรือรับรองเบี่ยงบ่าย
การรับรองตลอดไป คือยอมตกลงโดยไม่แก้แย้งคำสั่งของผู้สั่งจ่ายแต่ อย่างหนึ่งอย่างใดเลย
ส่วนการรับรองเบี่ยงบ่ายนั้น กล่าวเป็นเนื้อความทำผลแห่งตั๋วเงินให้ แผกไปจากที่เขียนสั่งไว้
กล่าวโดยเฉพาะก็คือว่า ถ้าคำรับรองมีเงื่อนไขก็ดี หรือรับรองแต่เพียง บางส่วนก็ดี ท่านว่าเป็นรับรองเบี่ยงบ่าย
 มาตรา 936 คำรับรองเบี่ยงบ่ายนั้น ผู้ทรงตั๋วแลกเงินจะบอกปัดเสีย ก็ได้ และถ้าไม่ได้คำรับรองอันไม่เบี่ยงบ่าย จะถือเอาตั๋วเงินนั้นเป็นอันขาด ความเชื่อถือรับรองก็ได้
ถ้าผู้ทรงรับเอาคำรับรองเบี่ยงบ่าย และผู้สั่งจ่ายหรือผู้สลักหลังมิได้ให้ อำนาจแก่ผู้ทรงโดยแสดงออกชัดหรือโดยปริยายให้รับเอาคำรับรองเบี่ยง บ่ายเช่นนั้นก็ดีหรือไม่ยินยอมด้วยในภายหลังก็ดี ท่านว่าผู้สั่งจ่ายหรือ ผู้สลักหลังนั้นๆย่อมหลุดพ้นจากความรับผิดตามตั๋วเงินนั้น แต่บท บัญญัติทั้งนี้ท่านมิให้ใช้ไปถึงการรับรองแต่บางส่วน ซึ่งได้บอกกล่าว ก่อนแล้วโดยชอบ
ถ้าผู้สั่งจ่ายหรือผู้สลักหลังตั๋วเงินรับคำบอกกล่าวการรับรองเบี่ยงบ่าย แล้วไม่โต้แย้งไปยังผู้ทรงภายในเวลาอันสมควร ท่านให้ถือว่าผู้สั่งจ่าย หรือผู้สลักหลังนั้นเป็นอันได้ยินยอมด้วยกับการนั้นแล้ว
 มาตรา 937 ผู้จ่ายได้ทำการรับรองตั๋วแลกเงินแล้วย่อมต้องผูกพัน ในอันจะจ่ายเงินจำนวนที่รับรองตามเนื้อความแห่งคำรับรองของตน


21 การอาวัลตั๋วเงิน
 มาตรา 938 ตั๋วแลกเงินจะมีผู้ค้ำประกันรับประกันการใช้เงินทั้งจำนวน หรือแต่บางส่วนก็ได้ ซึ่งท่านเรียกว่า "อาวัล"
อันอาวัลนั้นบุคคลภายนอกคนใดคนหนึ่งจะเป็นผู้รับ หรือแม้คู่สัญญา แห่งตั๋วเงินนั้นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเป็นผู้รับก็ได้
 มาตรา 939 อันการรับอาวัลย่อมทำให้กันด้วยเขียนลงในตั๋วแลก เงินนั้นเอง หรือที่ใบประจำต่อ
ในการนี้พึงใช้ถ้อยคำสำนวนว่า "ใช้ได้เป็นอาวัล" หรือสำนวนอื่นใด ทำนองเดียวกันนั้น และลงลายมือชื่อผู้รับอาวัล
อนึ่ง เพียงแต่ลงลายมือชื่อของผู้รับอาวัลในด้านหน้าแห่งตั๋วเงินท่าน ก็จัดว่าเป็นคำรับอาวัลแล้ว เว้นแต่ในกรณีที่เป็นลายมือชื่อของผู้จ่าย หรือผู้สั่งจ่าย
ในคำรับอาวัลต้องระบุว่ารับประกันผู้ใด หากมิได้ระบุ ท่านให้ถือ ว่ารับประกันผู้สั่งจ่าย
 มาตรา 940 ผู้รับอาวัลย่อมต้องผูกพันเป็นอย่างเดียวกันกับบุคคล ซึ่งตนประกัน
แม้ถึงว่าความรับผิดใช้เงินอันผู้รับอาวัลได้ประกันอยู่นั้น จะตกเป็น ใช้ไม่ได้ด้วยเหตุใด ๆ นอกจากเพราะทำผิดแบบระเบียบ ท่านว่าข้อ ที่สัญญารับอาวัลนั้นก็ยังคงสมบูรณ์
เมื่อผู้รับอาวัลได้ใช้เงินไปตามตั๋วแลกเงินแล้ว ย่อมได้สิทธิในอัน จะไล่เบี้ยเอาแก่บุคคลซึ่งตนได้ประกันไว้ กับทั้งบุคคลทั้งหลายผู้รับ ผิดแทนตัวผู้นั้น


22 การใช้เงินตามตั๋ว


การใช้เงิน


 มาตรา 941 อันตั๋วแลกเงินนั้น ย่อมจะพึงใช้เงินในวันถึงกำหนด และถึงกำหนดวันใดผู้ทรงต้องนำตั๋วเงินไปยื่นเพื่อให้ใช้เงินในวันนั้น

มาตรา 942 อันจะบังคับให้ผู้ทรงตั๋วแลกเงินรับใช้ก่อนตั๋วเงินถึง กำหนดนั้น ท่านว่าหาอาจจะทำได้ไม่
อนึ่ง ผู้จ่ายคนใดใช้เงินไปแต่ก่อนเวลาตั๋วเงินถึงกำหนด ท่านว่า ย่อมทำเช่นนั้นด้วยเสี่ยงเคราะห์ของตนเอง

มาตรา 943 อันการถึงกำหนดแห่งตั๋วแลกเงินซึ่งสั่งให้ใช้เงินเมื่อ สิ้นระยะเวลาอันใดอันหนึ่งนับแต่วันได้เห็นนั้น ท่านให้กำหนดนับแต่วัน รับรองหรือวันคัดค้าน
ถ้าไม่มีคำคัดค้าน และคำรับรองมิได้ลงวัน ท่านให้ถือว่าผู้รับรอง ได้ให้คำรับรองนั้นในวันท้ายแห่งกำหนดเวลาซึ่งจำกัดไว้ตามกฎหมาย หรือตามสัญญาเพื่อการยื่นตั๋วนั้น

มาตรา 944 อันตั๋วแลกเงินซึ่งให้ใช้เงินเมื่อได้เห็นนั้น ท่านว่าย่อม จะพึงใช้เงินในวันเมื่อยื่นตั๋ว ทั้งนี้ต้องยื่นให้ใช้เงินภายในกำหนดเวลา ซึ่งบังคับไว้ เพื่อการยื่นให้รับรองตั๋วเงินชนิดให้ใช้เงินในเวลาใดเวลาหนึ่ง ภายหลังได้เห็นนั้น

มาตรา 945 การใช้เงินจะเรียกเอาได้ต่อเมื่อเวนตั๋วแลกเงินให้ ผู้ใช้เงินจะให้ผู้ทรงลงลายมือชื่อรับเงินในตั๋วเงินนั้นก็ได้

มาตรา 946 อันตั๋วแลกเงินนั้น ถ้าเขาจะใช้เงินให้แต่เพียงบางส่วน ท่านว่าผู้ทรงจะบอกปัดเสียไม่ยอมรับเอาก็ได้
ถ้าและรับเอาเงินที่เขาใช้แต่เพียงบางส่วน ผู้ทรงต้องบันทึกข้อความ นั้นลงไว้ในตั๋วเงิน และส่งมอบใบรับให้แก่ผู้ใช้เงิน

มาตรา 947 ถ้าตั๋วแลกเงินมิได้ยื่นเพื่อให้ใช้เงินในวันถึงกำหนดไซร้ ท่านว่าผู้รับรองจะเปลื้องตนให้พ้นจากความรับผิด โดยวางจำนวนเงินที่ ค้างชำระตามตั๋วนั้นไว้ก็ได้

มาตรา 948 ถ้าผู้ทรงตั๋วแลกเงินยอมผ่อนเวลาให้แก่ผู้จ่ายไซร้ท่านว่า ผู้ทรงสิ้นสิทธิที่จะไล่เบี้ยเอาแก่ผู้เป็นคู่สัญญาคนก่อน ๆ ซึ่งมิได้ตกลงใน การผ่อนเวลานั้น

มาตรา 949 ภายในบังคับแห่งบทบัญญัติ มาตรา 1009 บุคคลผู้ใช้เงินในเวลาถึงกำหนดย่อมเป็นอันหลุดพ้นจากความรับผิด เว้นแต่ตนจะได้ทำการฉ้อฉลหรือมีความประมาทเลินเล่ออย่าง ร้ายแรง อนึ่ง บุคคลซึ่งกล่าวนี้จำต้องพิสูจน์ให้เห็นจริงว่าได้มีการ สลักหลังติดต่อกันเรียบร้อยไม่ขาดสาย แต่ไม่จำต้องพิสูจน์ลายมือ ชื่อของเหล่าผู้สลักหลัง


 23 การไล่เบี้ยสิทธิไล่เบี้ยเพราะเขาไม่รับรองหรือไม่ใช้เงิน


มาตรา 959 ผู้ทรงตั๋วแลกเงินจะใช้สิทธิไล่เบี้ยเอาแก่บรรดาผู้สลักหลัง ผู้สั่งจ่าย และบุคคลอื่น ๆ ซึ่งต้องรับผิดตามตั๋วเงินนั้นก็ได้คือ
(ก) ไล่เบี้ยได้เมื่อตั๋วเงินถึงกำหนดในกรณีไม่ใช้เงิน
(ข) ไล่เบี้ยได้แม้ทั้งตั๋วเงินยังไม่ถึงกำหนดในกรณีดั่งจะกล่าวต่อไปนี้ คือ
(1) ถ้าเขาบอกปัดไม่รับรองตั๋วเงิน
(2) ถ้าผู้จ่ายหากจะได้รับรองหรือไม่ก็ตาม ตกเป็นคนล้มละลาย หรือได้งดเว้นการใช้หนี้ แม้การงดเว้นใช้หนี้นั้นจะมิได้มีคำพิพากษา เป็นหลักฐานก็ตาม หรือถ้าผู้จ่ายถูกยึดทรัพย์และการยึดทรัพย์นั้นไร้ผล
(3) ถ้าผู้สั่งจ่ายตั๋วเงินชนิดไม่จำเป็นต้องให้ผู้ใดรับรองนั้น ตกเป็นคน ล้มละลาย
มาตรา 967 ในเรื่องตั๋วแลกเงินนั้น บรรดาบุคคลผู้สั่งจ่ายก็ดีรับรอง ก็ดีสลักหลังก็ดี หรือรับประกันด้วยอาวัลก็ดี ย่อมต้องร่วมกันรับผิดต่อผู้ทรง
ผู้ทรงย่อมมีสิทธิว่ากล่าวเอาความแก่บรรดาบุคคลเหล่านี้เรียงตัว หรือรวมกันก็ได้ โดยมิพักต้องดำเนินตามลำดับที่คนเหล่านั้นมาต้อง ผูกพัน
สิทธิเช่นเดียวกันนี้ ย่อมมีแก่บุคคลทุกคนซึ่งได้ลงลายมือชื่อในตั๋วเงิน และเข้าถือเอาตั๋วเงินนั้น ในการที่จะใช้บังคับเอาแก่ผู้ที่มีความผูกพันอยู่ แล้วก่อนตน
การว่ากล่าวเอาความแก่คู่สัญญาคนหนึ่ง ซึ่งต้องรับผิดย่อมไม่ตัดหน ทางที่จะว่ากล่าวเอาความแก่คู่สัญญาคนอื่น ๆ แม้ทั้งจะเป็นฝ่ายอยู่ใน ลำดับภายหลังบุคคลที่ได้ว่ากล่าวเอาความมาก่อน
มาตรา 970 คู่สัญญาทุกฝ่ายซึ่งต้องรับผิดและถูกไล่เบี้ย หรืออยู่ใน ฐานะจะถูกไล่เบี้ยได้นั้น อาจจะใช้เงินแล้วเรียกให้เขาสละตั๋วเงินให้แก่ตนได้ รวมทั้งคำคัดค้านและบัญชีรับเงินด้วย
ผู้สลักหลังทุกคนซึ่งเข้าถือและใช้เงินตามตั๋วแลกเงินแล้วจะขีดฆ่าคำ สลักหลังของตนเองและของเหล่าผู้สลักหลังภายหลังตนนั้นเสียก็ได้
มาตรา 971 ผู้สั่งจ่ายก็ดี ผู้รับรองก็ดี ผู้สลักหลังคนก่อนก็ดีซึ่งเขา สลักหลังหรือโอนตั๋วแลกเงินให้อีกทอดหนึ่งนั้น หามีสิทธิจะไล่เบี้ยเอา แก่คู่สัญญาฝ่าย ซึ่งตนย่อมต้องรับผิดต่อเขาอยู่กันก่อนแล้วตามตั๋ว เงินนั้นได้ไม่

24 การทำคำคัดค้าน

มาตรา 960 การที่ตั๋วแลกเงินขาดรับรองหรือขาดใช้เงินนั้น ต้องทำให้ เป็นหลักฐานตามแบบระเบียบด้วยเอกสารฉบับหนึ่ง เรียกว่าคำคัดค้าน

คำคัดค้านการไม่ใช้เงินต้องทำในวันซึ่งจะพึงใช้เงินตามตั๋วนั้น หรือวัน ใดวันหนึ่งภายในสามวันต่อแต่นั้นไป

คำคัดค้านการไม่รับรองต้องทำภายในจำกัดเวลาซึ่งกำหนดไว้ เพื่อการ ยื่นตั๋วเงินให้เขารับรอง หรือภายในสามวันต่อแต่นั้นไป

เมื่อมีคำคัดค้านการไม่รับรองขึ้นแล้วก็เป็นอันไม่ต้องยื่นเพื่อให้ใช้เงินและ และไม่ต้องทำคำคัดค้านการไม่ใช้เงิน

ในกรณีทั้งหลายซึ่งกล่าวไว้ใน มาตรา959 (ข) (2) นั้น ท่านว่าผู้ทรง ยังหาอาจจะใช้สิทธิไล่เบี้ยได้ไม่ จนกว่าจะได้ยื่นตั๋วเงินให้ผู้จ่ายใช้เงินและ ได้ทำคำคัดค้านขึ้นแล้ว

ในกรณีทั้งหลายดั่งกล่าวไว้ใน มาตรา 959(ข) (3) นั้น ท่านว่าถ้าเอา คำพิพากษาซึ่งสั่งให้ผู้สั่งจ่ายเป็นคนล้มละลายออกแสดง ก็เป็นการเพียงพอ ที่จะทำให้ผู้ทรงสามารถใช้สิทธิไล่เบี้ยได้

มาตรา 961 คำคัดค้านนั้นให้นายอำเภอ หรือผู้ทำการแทนนายอำเภอ หรือทนายความผู้ได้รับอนุญาตเพื่อการนี้เป็นผู้ทำ

เสนาบดีกระทรวงยุติธรรมมีอำนาจออกกฎข้อบังคับเพื่อปฏิบัติการให้เป็น ไปตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้อันว่าด้วยการออกใบอนุญาตและ การทำคำคัดค้าน รวมทั้งกำหนดอัตราค่าฤชาธรรมเนียมอันเกี่ยวกับการนั้น

มาตรา 965 ในกรณีตั๋วเงินภายในประเทศ ถ้าผู้จ่ายบันทึกลงไว้ใน ตั๋วแลกเงินเป็นข้อความบอกปัดไม่รับรองหรือไม่ยอมใช้เงิน ทั้งลงวันที่ บอกปัดลงลายมือชื่อไว้ด้วยแล้ว ท่านว่าคำคัดค้านนั้นก็เป็นอันไม่จำเป็น ต้องทำ และผู้ทรงต้องส่งคำบอกกล่าวขาดความเชื่อถือไปยังบุคคลซึ่ง ตนจำนงจะไล่เบี้ยภายในสี่วันต่อจากวันเขาบอกปัดไม่รับรองนั้น

มาตรา 962 ในคำคัดค้านนั้นนอกจากชื่อ ตำแหน่ง และลายมือชื่อ ของผู้ทำ ต้องมีสำเนาตั๋วเงินกับรายการสลักหลังทั้งหมดตรงถ้อยตรงคำ กับระบุความดั่งจะกล่าวต่อไปนี้ คือ

(1) ชื่อ หรือยี่ห้อของบุคคลผู้คัดค้านและผู้ถูกคัดค้าน

(2) มูล หรือเหตุที่ต้องทำคำคัดค้านตั๋วเงิน การทวงถามและคำตอบ ถ้ามี หรือข้อที่ว่าหาตัวผู้จ่ายหรือผู้รับรองไม่พบ

(3) ถ้ามีการรับรอง หรือใช้เงินเพื่อแก้หน้า ให้แถลงลักษณะแห่งการ เข้าแก้หน้าทั้งชื่อหรือยี่ห้อของผู้รับรองหรือผู้ใช้เงินเพื่อแก้หน้า และชื่อ บุคคลซึ่งเขาเข้าแก้หน้านั้นด้วย

(4) สถานที่และวันทำคำคัดค้าน

ให้ผู้ทำคำคัดค้านส่งมอบคำคัดค้านแก่ผู้ร้องขอให้ทำ และให้ผู้ทำคำ คัดค้านรีบส่งคำบอกกล่าวการคัดค้านนั้นไปยังผู้ถูกคัดค้าน ถ้าทราบ ภูมิลำเนาก็ให้ส่งโดยจดหมายลงทะเบียนไปรษณีย์ หรือส่งมอบไว้ ณ ภูมิลำเนาของผู้นั้นก็ได้ถ้าไม่ทราบภูมิลำเนาก็ให้ปิดสำเนาคำคัดค้านไว้ ยังที่ซึ่งเห็นได้ง่าย ณ ที่ว่าการอำเภอประจำท้องที่อันผู้ถูกคัดค้านมีถิ่น ที่อยู่ครั้งหลังที่สุด

25 คำบอกกล่าว มาตรา 963 ผู้ทรงต้องให้คำบอกกล่าวการที่เข้าไม่รับรองตั๋วแลกเงิน หรือไม่ใช้เงินนั้นไปยังผู้สลักหลังถัดตนขึ้นไปกับทั้งผู้สั่งจ่ายด้วยภายในเวลา สี่วันต่อจากวันคัดค้าน หรือต่อจากวันยื่นตั๋วในกรณีที่มีข้อกำหนดว่า "ไม่ จำต้องมีคำคัดค้าน"

ผู้สลักหลังทุก ๆ คนต้องให้คำบอกกล่าวไปยังผู้สลักหลังถัดตนขึ้นไป ภายในสองวัน ให้ทราบคำบอกกล่าวอันตนได้รับ จดแจ้งให้ทราบชื่อและ สำนักของผู้ที่ได้ให้คำบอกกล่าวมาก่อน ๆ นั้นด้วย ทำเช่นนี้ติดต่อกัน ไปโดยลำดับจนกระทั่งถึงผู้สั่งจ่าย อนึ่งจำกัดเวลาซึ่งกล่าวมานั้น ท่าน นับแต่เมื่อคนหนึ่ง ๆ ได้รับคำบอกกล่าวแต่คนก่อน

26.ผู้ทรงเรียกร้องเอาเงินจากบุคคลที่ตนใช้สิทธิไล่เบี้ยได้เพียงใด มาตรา 968

มาตรา 968 ผู้ทรงจะเรียกร้องเอาเงินใช้จากบุคคลซึ่งตนใช้สิทธิไล่ เบี้ยนั้นก็ได้ คือ

(1) จำนวนเงินในตั๋วแลกเงินซึ่งเขาไม่รับรอง หรือไม่ใช้กับทั้งดอก เบี้ยด้วย หากว่ามีข้อกำหนดไว้ว่าให้คิดดอกเบี้ย

(2) ดอกเบี้ยอัตราร้อยละห้าต่อปีนับแต่วันถึงกำหนด

(3) ค่าใช้จ่ายในการคัดค้าน และในการส่งคำบอกกล่าวของผู้ทรงไป ยังผู้สลักหลังถัดจากตนขึ้นไปและผู้สั่งจ่าย กับทั้งค่าใช้จ่ายอื่น ๆ (4) ค่าชักส่วนลดซึ่งถ้าไม่มีข้อตกลงกันไว้ ท่านให้คิดร้อยละ 1/6 ใน ต้นเงินอันจะพึงใช้ตามตั๋วเงิน และไม่ว่ากรณีจะเป็นอย่างไร ท่านมิให้คิดสูง กว่าอัตรานี้

ถ้าใช้สิทธิไล่เบี้ยก่อนถึงกำหนด ท่านให้หักลดจำนวนเงินในตั๋วเงินลงให้ ร้อยละห้า

ถ้าผู้สลักหลังคนหนึ่งคนใดมิได้ระบุสำนักของตนไว้ก็ดี หรือได้ระบุ แต่อ่านไม่ได้ความก็ดี ท่านว่าสุดแต่คำบอกกล่าวได้ส่งไปยังผู้สลักหลัง คนก่อนก็เป็นอันพอแล้ว

บุคคลผู้จะต้องให้คำบอกกล่าว จะทำคำบอกกล่าวเป็นรูปอย่างใด ก็ได้ทั้งสิ้น แม้เพียงแต่ด้วยส่งตั๋วแลกเงินคืนก็ใช้ได้ อนึ่งต้องพิสูจน์ได้ว่า ได้ส่งคำบอกกล่าวภายในเวลากำหนด

ถ้าส่งคำบอกกล่าวเป็นหนังสือจดทะเบียนไปรษณีย์ หากว่าหนังสือ นั้นได้ส่งไปรษณีย์ภายในเวลากำหนดดั่งกล่าวมานั้นไซร้ ท่านให้ถือว่า คำบอกกล่าวเป็นอันได้ส่งภายในจำกัดเวลาบังคับแล้ว

บุคคลซึ่งมิได้ให้คำบอกกล่าวภายในจำกัดเวลาดั่งได้ว่ามานั้นหาเสีย สิทธิไล่เบี้ยไม่ แต่จะต้องรับผิดเพื่อความเสียหายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่ ความประมาทเลินเล่อของตน แต่ท่านมิให้คิดค่าสินไหมทดแทนเกิน กว่าจำนวนในตั๋วแลกเงิน

มาตรา 964 ด้วยข้อกำหนดเขียนลงไว้ว่า "ไม่จำต้องมีคำคัดค้าน" ก็ดี"ไม่มีคัดค้าน" ก็ดี หรือสำนวนอื่นใดทำนองนั้นก็ดี ผู้สั่งจ่ายหรือผู้สลัก หลังจะยอมปลดเปลื้องผู้ทรง จากการทำคำคัดค้านการไม่รับรองหรือการ ไม่ใช้เงินก็ได้ เพื่อตนจะได้ใช้สิทธิไล่เบี้ย

ข้อกำหนดอันนี้ ย่อมไม่ปลดผู้ทรงให้พ้นจากหน้าที่นำตั๋วเงินยื่นภายใน เวลากำหนด หรือจากหน้าที่ให้คำบอกกล่าวตั๋วเงินขาดความเชื่อถือแก่ ผู้สลักหลังคนก่อนหรือผู้สั่งจ่าย อนึ่งหน้าที่นำสืบว่าไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตาม กำหนดเวลาจำกัดนั้น ย่อมตกอยู่แก่บุคคลผู้แสวงจะใช้ความข้อนั้นเป็น ข้อต่อสู้ผู้ทรงตั๋วแลกเงิน

ข้อกำหนดอันนี้ ถ้าผู้สั่งจ่ายเป็นผู้เขียนลงไปแล้ว ย่อมเป็นผลตลอด ถึงคู่สัญญาทั้งปวงบรรดาที่ได้ลงลายมือชื่อในตั๋วเงินนั้น ถ้าและทั้งมีข้อ กำหนดดั่งนี้แล้ว ผู้ทรงยังขืนทำคำคัดค้านไซร้ ท่านว่าผู้ทรงต้องเป็นผู้ ออกค่าใช้จ่ายเพื่อการนั้น หากว่าข้อกำหนดนั้นผู้สลักหลังเป็นผู้เขียนลง และถ้ามีคำคัดค้านทำขึ้นไซร้ ท่านว่าค่าใช้จ่ายในการคัดค้านนั้นอาจจะ เรียกเอาใช้ได้จากคู่สัญญาอื่น ๆ บรรดาที่ได้ลงลายมือชื่อในตั๋วแลกเงินนั้น

27 คู่สัญญาฝ่ายซึ่งถือเอาและใช้เงินตามตั๋วแลกเงิน จะเรียกร้องเอาเงินจากคู่สัญญาทั้งหลายซึ่งต้องรับผิดต่อตนได้เพียงใด มาตรา 969

มาตรา 969 คู่สัญญาฝ่ายซึ่งเข้าถือเอาและใช้เงินตามตั๋วแลกเงินอาจ จะเรียกเอาเงินใช้จากคู่สัญญาทั้งหลายซึ่งต้องรับผิดต่อตนได้ คือ

(1) เงินเต็มจำนวนซึ่งตนได้ใช้ไป

(2) ดอกเบี้ยในจำนวนเงินนั้น คิดอัตราร้อยละห้าต่อปีนับแต่วันที่ได้ใช้ เงินไป

(3) ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อันตนต้องออกไป

(4) ค่าชักส่วนลดจากต้นเงินจำนวนในตั๋วแลกเงิน ตามที่กำหนดไว้ใน มาตรา968 อนุ มาตรา (4)

/28 กำหนดเวลาที่สำคัญในตั๋วแลกเงิน ถ้าล่วงพ้นไปแล้วจะทำให้ผู้ทรงเสียหาย มาตรา 973

มาตรา 973 เมื่อกำหนดเวลาจำกัดซึ่งจะกล่าวต่อไปนี้ได้ล่วงพ้นไป แล้วคือ

(1) กำหนดเวลาสำหรับยื่นตั๋วแลกเงินชนิดให้ใช้เงินเมื่อได้เห็น หรือ ในระยะเวลาอย่างใดอย่างหนึ่งภายหลังได้เห็น

(2) กำหนดเวลาสำหรับทำคำคัดค้านการไม่รับรองหรือการไม่ใช้เงิน

(3) กำหนดเวลาสำหรับยื่นตั๋วเพื่อให้ใช้เงิน ในกรณีที่มีข้อกำหนดว่า"ไม่จำต้องมีคำคัดค้าน"

ท่านว่าผู้ทรงย่อมสิ้นสิทธิที่จะไล่เบี้ยเอาแก่เหล่าผู้สลักหลัง ผู้สั่งจ่าย และคู่สัญญาอื่น ๆ ผู้ต้องรับผิด เว้นแต่ผู้รับรอง

อนึ่ง ถ้าไม่ยื่นตั๋วแลกเงินเพื่อให้เขารับรองภายในเวลาจำกัดดั่งผู้สั่ง จ่ายได้กำหนดไว้ ท่านว่าผู้ทรงย่อมเสียสิทธิที่จะไล่เบี้ยทั้งเพื่อการที่เขา ไม่ใช้เงิน และเพื่อการที่เขาไม่รับรอง เว้นแต่จะปรากฏจากข้อกำหนดว่าผู้ สั่งจ่ายหมายเพียงแต่จะปลดตนเองให้พ้นจากประกันการรับรอง

ถ้าข้อกำหนดจำกัดเวลายื่นตั๋วแลกเงินนั้นมีอยู่ที่คำสลักหลังท่านว่า เฉพาะแต่ผู้สลักหลังเท่านั้นจะอาจเอาประโยชน์ในข้อกำหนดนั้นได้

29 กรณีมีเหตุจำเป็นทำให้ผู้ทรงไม่ได้กระทำการต่างๆภายในกำหนดเวลา มาตรา 974

มาตรา 974 การยื่นตั๋วแลกเงินก็ดี การทำคำคัดค้านก็ดี ถ้ามีเหตุจำ เป็นอันมิอาจก้าวล่วงเสียได้มาขัดขวางมิให้ทำได้ ภายในกำหนดเวลาจำกัด สำหรับการนั้นไซร้ ท่านให้ยืดกำหนดเวลาออกไปอีกได้

เหตุจำเป็นอันมิอาจก้าวล่วงเสียได้ดั่งว่ามานั้น ผู้ทรงต้องบอกกล่าวแก่ ผู้สลักหลังคนถัดตนขึ้นไปโดยไม่ชักช้า และคำบอกกล่าวนั้นต้องเขียนระบุ ลงในตั๋วเงิน หรือใบประจำต่อ ต้องลงวันและลงลายมือชื่อของผู้ทรงการอื่น ๆ นอกจากที่กล่าวนี้ ท่านให้บังคับตามบทบัญญัติ มาตรา 963

เมื่อเหตุจำเป็นอันมิอาจก้าวล่วงเสียได้นั้นสุดสิ้นลงแล้ว ผู้ทรงต้องยื่น ตั๋วเงินใช้เขารับรองหรือใช้เงินโดยไม่ชักช้า และถ้าจำเป็นก็ทำคำคัดค้านขึ้น

ถ้าเหตุจำเป็นอันมิอาจก้าวล่วงเสียได้นั้น ยังคงมีอยู่ต่อไปจนเป็นเวลา กว่าสามสิบวันภายหลังตั๋วเงินถึงกำหนดไซร้ ท่านว่าจะใช้สิทธิไล่เบี้ยก็ได้ และถ้าเช่นนั้นการยื่นตั๋วเงินก็ดี การทำคำคัดค้านก็ดี เป็นอันไม่จำเป็นต้องทำ

ในส่วนตั๋วเงินชนิดที่ให้ใช้เงินเมื่อได้เห็น หรือให้ใช้เงินในระยะเวลา อย่างหนึ่งอย่างใดภายหลังได้เห็นนั้น กำหนดสามสิบวันเช่นว่ามานี้ ท่าน ให้นับแต่วันที่ผู้ทรงได้ให้คำบอกกล่าวเหตุจำเป็น อันมิอาจก้าวล่วงเสียได้นั้นแก่ผู้สลักหลังถัดตนขึ้นไป และถึงแม้ว่าจะเป็นการก่อนล่วงกำหนด เวลายื่นตั๋วเงิน ก็ให้นับเช่นนั้น

30 ผลของตั๋วเงินที่มีการสลักหลังโอนเมื่อสิ้นเวลากำหนดทำคำคัดค้าน มาตรา 924

มาตรา 924 ถ้าตั๋วแลกเงินสลักหลังต่อเมื่อสิ้นเวลาเพื่อคัดค้านการ ไม่รับรอง หรือการไม่ใช้เงินนั้นแล้วไซร้ ท่านว่าผู้รับสลักหลังย่อมได้ไป ซึ่งสิทธิแห่งการรับรองตามแต่มีต่อผู้จ่าย กับสิทธิไล่เบี้ยเอาแก่บรรดา ผู้ซึ่งสลักหลังตั๋วเงินนั้นภายหลังที่สิ้นเวลาเช่นนั้น

แต่ถ้าตั๋วเงินนั้นได้มีคัดค้านการไม่รับรอง หรือการไม่ใช้เงินมาแต่ ก่อนสลักหลังแล้วไซร้ ท่านว่าผู้รับสลักหลังย่อมได้ไปแต่เพียงสิทธิของ ผู้ซึ่งสลักหลังให้แก่ตนอันมีต่อผู้รับรอง ต่อผู้สั่งจ่าย และต่อบรรดาผู้ที่ สลักหลังตั๋วเงินนั้นมาก่อนย้อนขึ้นไปจนถึงเวลาคัดค้านเท่านั้น

31 การสลักหลังเพื่อตั้งตัวแทน มาตรา 925มาตรา 925 เมื่อใดความที่สลักหลังมีข้อกำหนดว่า "ราคาอยู่ที่เรียก เก็บ" ก็ดี "เพื่อเรียกเก็บ" ก็ดี "ในฐานจัดการแทน" ก็ดี หรือความสำนวน อื่นใดอันเป็นปริยายว่าตัวแทนไซร้ ท่านว่าผู้ทรงตั๋วแลกเงินจะใช้สิทธิ ทั้งปวงอันเกิดแต่ตั๋วนั้นก็ย่อมได้ทั้งสิ้น แต่ว่าจะสลักหลังได้เพียงในฐาน เป็นตัวแทน

ในกรณีเช่นนี้ คู่สัญญาทั้งหลายซึ่งต้องรับผิดอาจจะต่อสู้ผู้ทรงได้ แต่เพียงด้วยข้อต่อสู้อันจะพึงใช้ได้ต่อผู้สลักหลังเท่านั้น

32 การจำนำตั๋วเงิน มาตรา 926

มาตรา 926 เมื่อใดความที่สลักหลังมีข้อกำหนดว่า "ราคาเป็นประกัน" ก็ดี "ราคาเป็นจำนำ" ก็ดี หรือข้อกำหนดอย่างอื่นใดอันเป็นปริยายว่า จำนำไซร้ ท่านว่าผู้ทรงตั๋วแลกเงินจะใช้สิทธิทั้งปวงอันเกิดแต่ตั๋วนั้น ก็ย่อมได้ทั้งสิ้น แต่ถ้าผู้ทรงสลักหลังตั๋วนั้น ท่านว่าการสลักหลังย่อม ใช้ได้เพียงในฐานเป็นคำสลักหลังของตัวแทน

คู่สัญญาทั้งหลายซึ่งต้องรับผิดหาอาจจะต่อสู้ผู้ทรงด้วยข้อต่อสู้ อันอาศัยความเกี่ยวพันเฉพาะบุคคลระหว่างตนกับผู้สลักหลังนั้นได้ไม่ เว้นแต่การสลักหลังจะได้มีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉล

33 ตั๋วสัญญาใช้เงินคืออะไรตั๋ วสัญญาใช้เงินมาตรา 982

มาตรา 328 ถ้าลูกหนี้ต้องผูกพันต่อเจ้าหนี้ในอันจะกระทำการเพื่อชำระหนี้เป็นการอย่างเดียวกันโดยมูลหนี้หลายรายและถ้าการที่ ลูกหนี้ชำระหนี้นั้นไม่เพียงพอจะเปลื้องหนี้สินได้หมดทุกรายไซร้ เมื่อทำการชำระหนี้ลูกหนี้ระบุว่าชำระหนี้สินรายใดก็ให้หนี้สินรายนั้น เป็นอันได้เปลื้องไป

ถ้าลูกหนี้ไม่ระบุ ท่านว่าหนี้สินรายไหนถึงกำหนดก็ให้รายนั้นเป็นอันได้เปลื้องไปก่อนในระหว่างหนี้สินหลายรายที่ถึงกำหนดนั้นรายใดเจ้าหนี้มีประกันน้อยที่สุดก็ให้รายนั้นเป็นอันได้เปลื้องไปก่อนในระหว่างหนี้สินหลายรายที่มีประกันเท่าๆ กันให้รายที่ตกหนักที่สุดแก่ลูกหนี้เป็นอันได้เปลื้องไปก่อนในระหว่างหนี้สินหลายรายที่ตกหนักแก่ลูกหนี้เท่าๆกันให้หนี้สินรายเก่าที่สุดเป็นอันได้เปลื้องไปก่อนและถ้ามีหนี้สินหลายรายเก่าเท่าๆ กัน ก็ให้หนี้สินทุกรายเป็นอันได้เปลื้องไปตามส่วนมากและน้อย

34 รายการต่างๆที่ต้องมีในสัญญาใช้เงิน มาตรา 983 ,984

มาตรา 983 ตั๋วสัญญาใช้เงินนั้น ต้องมีรายการดั่งจะกล่าวต่อไปนี้ คือ

(1) คำบอกชื่อว่าเป็นตั๋วสัญญาใช้เงิน

(2) คำมั่นสัญญาอันปราศจากเงื่อนไขว่าจะใช้เงินเป็นจำนวนแน่นอน

(3) วันถึงกำหนดใช้เงิน

(4) สถานที่ใช้เงิน

(5) ชื่อ หรือยี่ห้อของผู้รับเงิน

(6) วันและสถานที่ออกตั๋วสัญญาใช้เงิน

(7) ลายมือชื่อผู้ออกตั๋ว

มาตรา 984 ตราสารอันมีรายการขาดตกบกพร่องไปจากที่ท่าน ระบุบังคับไว้ใน มาตรา ก่อนนี้ ย่อมไม่สมบูรณ์เป็นตั๋วสัญญาใช้เงิน เว้นแต่ในกรณีดั่งจะกล่าวต่อไปนี้ คือ

ตั๋วสัญญาใช้เงินซึ่งไม่ระบุเวลาใช้เงิน ท่านให้ถือว่าพึงใช้เงินเมื่อ ได้เห็น

ถ้าสถานที่ใช้เงินมิได้แถลงไว้ในตั๋วสัญญาใช้เงิน ท่านให้ถือเอา

ภูมิลำเนาของผู้ออกตราสารนั้นเป็นสถานที่ใช้เงิน ถ้าตั๋วสัญญาใช้เงินไม่ระบุสถานที่ออกตั๋ว ท่านให้ถือว่าตั๋วนั้นได้ ออก ณ ภูมิลำเนาของผู้ออกตั๋ว

ถ้ามิได้ลงวันออกตั๋ว ท่านว่าผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมายคนหนึ่ง คนใดทำการโดยสุจริตจะจดวันตามที่ถูกต้องแท้จริงลงก็ได้

35 การนำบทบัญญัติของตั๋วแลกเงินมาใช้ในตั๋วสัญญาใช้เงิน มาตรา 985

มาตรา 985 บทบัญญัติทั้งหลายในหมวด 2 ว่าด้วยตั๋วแลกเงิน ดั่งจะกล่าวต่อไปนี้ ท่านให้ยกมาบังคับในเรื่องตั๋วสัญญาใช้เงินเพียงเท่าที่ไม่ขัดกับสภาพแห่งตราสารชนิดนี้ คือบท มาตรา 911,มาตรา 913,มาตรา 916,มาตรา 917,มาตรา 919,มาตรา 920,มาตรา 922 ถึง มาตรา 926,มาตรา 938 ถึง มาตรา 947,มาตรา 949,มาตรา 950,มาตรา 954 ถึง มาตรา 959,มาตรา 967 ถึง มาตรา 971

ถ้าเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกมาแต่ต่างประเทศ ท่านให้นำบท บัญญัติต่อไปนี้มาใช้บังคับด้วย คือบท มาตรา 960 ถึง มาตรา 964,มาตรา 973,มาตรา 974

36 ความผูกพันของผู้ออกตั๋ว มาตรา 986

มาตรา 986 ผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินย่อมต้องผูกพันเป็นอย่างเดียว กันกับผู้รับรองตั๋วแลกเงิน

ตั๋วสัญญาใช้เงินซึ่งให้ใช้เงินในเวลาใดเวลาหนึ่ง ภายหลังได้เห็น นั้นต้องนำยื่นให้ผู้ออกตั๋วจดรับรู้ภายในจำกัดเวลาดั่งกำหนดไว้ใน มาตรา 928 กำหนดเวลานี้ให้นับแต่วันจดรับรู้ซึ่งลงลายมือชื่อผู้ออกตั๋ว ถ้าผู้ออกตั๋วบอกปัดไม่ยอมจดรับรู้และลงวันไซร้ การที่เขาบอกปัดเช่น นี้ท่านว่าต้องทำให้เป็นหลักฐานขึ้นด้วยคำคัดค้าน และวันคัดค้านนั้น ให้ถือเป็นวันเริ่มต้นในการนับกำหนดเวลาแต่ได้เห็น

เช็ค

37 เช็คคืออะไร มาตรา 987

มาตรา 987 อันว่าเช็คนั้น คือหนังสือตราสารซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่าผู้สั่งจ่าย สั่งธนาคารให้ใช้เงินจำนวนหนึ่งเมื่อทวงถามให้แก่ บุคคลอีกคนหนึ่งหรือให้ใช้ตามคำสั่งของบุคคลอีกคนหนึ่งอันเรียกว่า ผู้รับเงิน

38 รายการต่างๆที่มีในเช็ค มาตรา 988

มาตรา 988 อันเช็คนั้น ต้องมีรายการดั่งกล่าวต่อไปนี้ คือ

(1) คำบอกชื่อว่าเป็นเช็ค

(2) คำสั่งอันปราศจากเงื่อนไขให้ใช้เงินเป็นจำนวนแน่นอน

(3) ชื่อ หรือยี่ห้อและสำนักของธนาคาร

(4) ชื่อ หรือยี่ห้อของผู้รับเงิน หรือคำจดแจ้งว่าให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ

(5) สถานที่ใช้เงิน

(6) วันและสถานที่ออกเช็ค

(7) ลายมือชื่อผู้สั่งจ่าย

39 การนำบทบัญญัติของตั๋วแลกเงินมาใช้ในเช็คมาตรา 989

มาตรา 989 บทบัญญัติทั้งหลายในหมวด 2 อันว่าด้วยตั๋วแลกเงิน ดั่งจะกล่าวต่อไปนี้ ท่านให้ยกมาบังคับในเรื่องเช็คเพียงเท่าที่ไม่ขัดกับ สภาพแห่งตราสารชนิดนี้ คือบท มาตรา 910,มาตรา 914 ถึง มาตรา 923,มาตรา 925,มาตรา 926,มาตรา 938 ถึง มาตรา 940, มาตรา 945,มาตรา 946,มาตรา 959มาตรา 967,มาตรา 971

ถ้าเป็นเช็คที่ออกมาแต่ต่างประเทศ ท่านให้นำบทบัญญัติดั่งต่อไปนี้ มาใช้บังคับด้วย คือบท มาตรา มาตรา 924,มาตรา 960 ถึง มาตรา 964,มาตรา 973 ถึง มาตรา 977,มาตรา 980

40 กรณีผู้ทรงไม่ได้ยื่นเช็คให้ธนาคารจ่ายเงินตามกำหนด มาตรา 990

มาตรา 990 ผู้ทรงเช็คต้องยื่นเช็คแก่ธนาคารเพื่อให้ใช้เงิน คือว่า ถ้าเป็นเช็คให้ใช้เงินในเมืองเดียวกันกับที่ออกเช็ค ต้องยื่นภายใน เดือนหนึ่งนับแต่วันออกเช็คนั้น ถ้าเป็นเช็คให้ใช้เงินที่อื่นต้องยื่น ภายในสามเดือน ถ้ามิฉะนั้น ท่านว่าผู้ทรงสิ้นสิทธิที่จะไล่เบี้ยเอาแก่ ผู้สลักหลังทั้งปวง ทั้งเสียสิทธิอันมีต่อผู้สั่งจ่ายด้วยเพียงเท่าที่จะ เกิดความเสียหายอย่างหนึ่งอย่างใดแก่ผู้สั่งจ่ายเพราะการที่ละเลย เสียไม่ยื่นเช็คนั้น

อนึ่ง ผู้ทรงเช็คซึ่งผู้สั่งจ่ายหลุดพ้นจากความรับผิดไปแล้วนั้น ท่านให้รับช่วงสิทธิของผู้สั่งจ่ายคนนั้นอันมีต่อธนาคาร

41 หน้าที่ที่ธนาคารจะต้องจ่ายเงินตามเช็ค มาตรา 991 วรรคแรก มาตรา 991 ธนาคารจำต้องใช้เงินตามเช็คซึ่งผู้เคยค้ากับธนาคาร ได้ออกเบิกเงินแก่ตน (เว้นแต่ในกรณีดั่งกล่าวต่อไปนี้ คือ)

สิทธิของธนาคารที่ไม่จ่ายเงินตามเช็คของธนาคาร มาตรา 991( 1)( 2)( 3)

(1) ไม่มีเงินในบัญชีของผู้เคยค้าคนนั้นเป็นเจ้าหนี้พอจะจ่ายตาม เช็คนั้นหรือ

(2) เช็คนั้นยื่นเพื่อให้ใช้เงินเมื่อพ้นเวลาหกเดือนนับแต่วันออกเช็ค หรือ

(3) ได้มีคำบอกกล่าวว่าเช็คนั้นหายหรือถูกลักไป

42 หน้าที่และอำนาจที่จะต้องใช้เงินตามเช็คของธนาคารสิ้นสุดลง มาตรา 992

มาตรา 992 หน้าที่และอำนาจของธนาคารซึ่งจะใช้เงินตามเช็คอันเบิก แก่ตนนั้น ท่านว่าเป็นอันสุดสิ้นไปเมื่อกรณีเป็นดั่งจะกล่าวต่อไปนี้ คือ

(1) มีคำบอกห้ามการใช้เงิน

(2) รู้ว่าผู้สั่งจ่ายตาย

(3) รู้ว่าศาลได้มีคำสั่งรักษาทรัพย์ชั่วคราว หรือคำสั่งให้ผู้สั่งจ่ายเป็น คนล้มละลาย หรือได้มีประกาศโฆษณาคำสั่งเช่นนั้น

43 การรับรองเช็ค(ของธนาคารจดรับรู้)มาตรา 993

มาตรา 993 ถ้าธนาคารเขียนข้อความลงลายมือชื่อบนเช็ค เช่นคำว่า "ใช้ได้" หรือ "ใช้เงินได้" หรือคำใด ๆ อันแสดงผลอย่างเดียวกัน ท่านว่าธนาคารต้องผูกพันในฐานเป็นลูกหนี้ชั้นต้นในอันจะต้องใช้เงิน แก่ผู้ทรงตามเช็คนั้น

ถ้าผู้ทรงเช็คเป็นผู้จัดการให้ธนาคารลงข้อความรับรองดั่งว่านั้น ท่านว่าผู้สั่งจ่ายและผู้สลักหลังทั้งปวงเป็นอันหลุดพ้นจากความรับผิด ตามเช็คนั้น

ถ้าธนาคารลงข้อความรับรองดั่งนั้นโดยคำขอร้องของผู้สั่งจ่าย ท่านว่าผู้สั่งจ่ายและปวงผู้สลักหลังก็หาหลุดพ้นไปไม่

44 เช็คขีดคร่อม มาตรา 994 -998

มาตรา 994 ถ้าในเช็คมีเส้นขนานคู่ขีดขวางไว้ข้างด้านหน้า กับมี หรือไม่มีคำว่า "และบริษัท" หรือคำย่ออย่างใด ๆ แห่งของความนี้อยู่ ในระหว่างเส้นทั้งสองนั้นไซร้ เช็คนั้นชื่อว่าเป็นเช็คขีดคร่อมทั่วไป และจะใช้เงินตามเช็คนั้นได้แต่เฉพาะให้แก่ธนาคารเท่านั้น

ถ้าในระหว่างเส้นทั้งสองนั้น กรอกชื่อธนาคารอันหนึ่งอันใดลงไว้ โดยเฉพาะ เช็คเช่นนั้นชื่อว่าเป็นเช็คขีดคร่อมเฉพาะ และจะใช้เงิน ตามเช็คนั้นได้เฉพาะให้แก่ธนาคารอันนั้น

มาตรา 995 (1) เช็คไม่มีขีดคร่อม ผู้สั่งจ่ายหรือผู้ทรงคนใดคนหนึ่ง จะเรียกขีดคร่อมเสียก็ได้ และจะทำเป็นขีดคร่อมทั่วไปหรือขีดคร่อม เฉพาะก็ได้

(2) เช็คขีดคร่อมทั่วไป ผู้ทรงจะทำให้เป็นขีดคร่อมเฉพาะเสียก็ได้

(3) เช็คขีดคร่อมทั่วไปก็ดี ขีดคร่อมเฉพาะก็ดี ผู้ทรงจะเติมคำลงว่า"ห้ามเปลี่ยนมือ" ก็ได้

(4) เช็คขีดคร่อมเฉพาะให้แก่ธนาคารใด ธนาคารนั้นจะซ้ำขีดคร่อม เฉพาะให้ไปแก่ธนาคารอื่นเพื่อเรียกเก็บเงินก็ได้

(5) เช็คไม่มีขีดคร่อมก็ดี เช็คขีดคร่อมทั่วไปก็ดี ส่งไปยังธนาคารใด เพื่อให้เรียกเก็บเงิน ธนาคารนั้นจะลงขีดคร่อมเฉพาะให้แก่ตนเองก็ได้

มาตรา 996 การขีดคร่อมเช็คตามที่อนุญาตไว้ใน มาตรา ก่อนนั้น ท่านว่าเป็นส่วนสำคัญอันหนึ่งของเช็ค ใครจะลบล้างย่อมไม่เป็นการ ชอบด้วยกฎหมาย

มาตรา 997 เช็คขีดคร่อมเฉพาะให้แก่ธนาคารกว่าธนาคารหนึ่งขึ้นไป เมื่อนำเบิกเอาแก่ธนาคารใด ท่านให้ธนาคารนั้นบอกปัดเสียอย่าใช้เงินให้ เว้นแต่ที่ขีดคร่อมให้แก่ธนาคารในฐานเป็นตัวแทนเรียกเก็บเงิน

ธนาคารใดซึ่งเขานำเช็คเบิกขืนใช้เงินไปตามเช็คที่ขีดคร่อมอย่างว่ามา นั้นก็ดี ใช้เงินตามเช็คอันเขาขีดคร่อมทั่วไปเป็นประการอื่นนอกจากใช้ให้ แก่ธนาคารอันใดอันหนึ่งก็ดี ใช้เงินตามเช็คอันเขาขีดคร่อมเฉพาะเป็น ประการอื่นนอกจากใช้ให้แก่ธนาคาร ซึ่งเขาเจาะจงขีดคร่อมให้โดย เฉพาะหรือแก่ธนาคารตัวแทนเรียกเก็บเงินของธนาคารนั้นก็ดี ท่านว่า ธนาคารซึ่งใช้เงินไปดั่งกล่าวนี้ จะต้องรับผิดต่อผู้เป็นเจ้าของอันแท้จริง แห่งเช็คนั้นในการที่เขาต้องเสียหายอย่างใด ๆ เพราะการที่ตนใช้เงินไป ตามเช็คดั่งนั้น

แต่หากเช็คใดเขานำยื่นเพื่อให้ใช้เงิน และเมื่อยื่นไม่ปรากฏว่าเป็นเช็ค ขีดคร่อมก็ดี หรือไม่ปรากฏว่ามีรอยขีดคร่อมอันได้ลบล้างหรือแก้ไข เปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมเป็นประการอื่นนอกจากที่อนุญาตไว้โดยกฎหมาย ก็ดี เช็คเช่นนี้ถ้าธนาคารใดใช้เงินไปโดยสุจริตและปราศจากประมาท เลินเล่อ ท่านว่าธนาคารนั้นไม่ต้องรับผิดหรือต้องมีหน้าที่รับใช้เงิน อย่างใด ๆ

มาตรา 998 ธนาคารใดซึ่งเขานำเช็คขีดคร่อมเบิกเงินใช้เงินไปตาม เช็คนั้นโดยสุจริตและปราศจากประมาทเลินเล่อ กล่าวคือว่าถ้าเป็นเช็ค ขีดคร่อมทั่วไปก็ใช้เงินให้แก่ธนาคารอันใดอันหนึ่ง ถ้าเป็นเช็คขีดคร่อม เฉพาะก็ใช้ให้แก่ธนาคารซึ่งเขาเจาะจงขีดคร่อมให้โดยเฉพาะหรือใช้ให้ แก่ธนาคารตัวแทนเรียกเก็บเงินของธนาคารนั้นไซร้ ท่านว่าธนาคารซึ่ง ใช้เงินไปตามเช็คนั้นฝ่ายหนึ่ง กับถ้าเช็คตกไปถึงมือผู้รับเงินแล้ว ผู้สั่ง จ่ายอีกฝ่ายหนึ่ง ต่างมีสิทธิเป็นอย่างเดียวกัน และเข้าอยู่ในฐานอัน เดียวกันเสมือนดั่งว่า

45 เช็คขีดคร่อมที่มีคำว่า ห้ามเปลี่ยนมือ ด้วยมาตรา 999

มาตรา 999 บุคคลใดได้เช็คขีดคร่อมของเขามาซึ่งมีคำว่า "ห้ามเปลี่ยนมือ" ท่านว่าบุคคลนั้นไม่มีสิทธิในเช็คนั้นยิ่งไปกว่าและ ไม่สามารถให้สิทธิในเช็คนั้นต่อไปได้ดีกว่าสิทธิของบุคคลอันตนได้ เช็คของเขามา

46 บทกฏหมายที่คุ้มครองธนาคารผู้เรียกเก็บเงิน มาตรา 1000

มาตรา 1000 ธนาคารใดได้รับเงินไว้เพื่อผู้เคยค้าของตนโดยสุจริต และปราศจากประมาทเลินเล่อ อันเป็นเงินเขาใช้ให้ตามเช็คขีดคร่อม ทั่วไปก็ดี ขีดคร่อมเฉพาะให้แก่ตนก็ดี หากปรากฏว่าผู้เคยค้านั้น ไม่มีสิทธิหรือมีสิทธิเพียงอย่างบกพร่องในเช็คนั้นไซร้ ท่านว่าเพียงแต่ เหตุที่ได้รับเงินไว้หาทำให้ธนาคารนั้นต้องรับผิดต่อผู้เป็นเจ้าของอัน แท้จริงแห่งเช็คนั้นแต่อย่างหนึ่งอย่างใดไม่

อายุความเวลาทำงานจะต้องศึกษาให้ดี

ตั๋วเงินปลอม ตั๋วเนถูกลักและตั๋วเงินหาย

47 ตั๋วเงินที่มีลายมือชื่อปลอม มาตรา 1006 , 1008

มาตรา 1006 การที่ลายมือชื่ออันหนึ่งในตั๋วเงินเป็นลายมือปลอม ย่อมไม่กระทบกระทั่งถึงความสมบูรณ์แห่งลายมือชื่ออื่น ๆ ในตั๋วเงินนั้น

มาตรา 1008 ภายในบังคับแห่งบทบัญญัติทั้งหลายในประมวลกฎหมายนี้ เมื่อใดลายมือชื่อในตั๋วเงินเป็นลายมือปลอมก็ดี เป็นลายมือชื่อลงไว้โดยที่ บุคคลซึ่งอ้างเอาเป็นเจ้าของลายมือชื่อนั้นมิได้มอบอำนาจให้ลงก็ดี ท่านว่า ลายมือชื่อปลอมหรือลงปราศจากอำนาจเช่นนั้นเป็นอันใช้ไม่ได้เลย ใครจะ อ้างอิงอาศัยแสวงสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อยึดหน่วงตั๋วเงินไว้ก็ดี เพื่อทำ ให้ตั๋วนั้นหลุดพ้นก็ดี หรือเพื่อบังคับการใช้เงินเอาแก่คู่สัญญาแห่งตั๋วนั้น คนใดคนหนึ่งก็ดี ท่านว่าไม่อาจจะทำได้เป็นอันขาด เว้นแต่คู่สัญญาฝ่าย ซึ่งจะพึงถูกยึดหน่วง หรือถูกบังคับใช้เงินนั้นจะอยู่ในฐานเป็นผู้ต้องตัด บทมิให้ยกข้อลายมือชื่อปลอม หรือข้อลงลายมือชื่อปราศจากอำนาจนั้น ขึ้นเป็นข้อต่อสู้

แต่ข้อความใด ๆ อันกล่าวมาใน มาตรานี้ ท่านมิให้กระทบกระทั่งถึง การให้สัตยาบันแก่ลายมือชื่อซึ่งลงไว้ โดยปราศจากอำนาจแต่หากไม่ถึง แก่เป็นลายมือปลอม

48 ตั๋วเงินที่มีการแก้ไขข้อความสำคัญ

ผลของตั๋วเงินที่มีการแก้ไขข้อความสำคัญกรณีเห็นประจักษ์ มาตรา 1007 วรรคแรก

มาตรา 1007 ถ้าข้อความในตั๋วเงินใด หรือในคำรับรองตั๋วเงินรายใด มีผู้แก้ไขเปลี่ยนแปลงในข้อสำคัญโดยที่คู่สัญญาทั้งปวงผู้ต้องรับผิดตาม ตั๋วเงินมิได้ยินยอมด้วยหมดทุกคนไซร้ ท่านว่าตั๋วเงินนั้นก็เป็นอันเสีย เว้นแต่ยังคงใช้ได้ต่อคู่สัญญาซึ่งเป็นผู้ทำการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนั้น หรือได้ยินยอมด้วยกับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนั้นกับทั้งผู้สลักหลังใน ภายหลัง

กรณีการแก้ไขไม่เห็นประจักษ์ มาตรา 1007 วรรคสอง

แต่หากตั๋วเงินใดได้มีผู้แก้ไขเปลี่ยนแปลงในข้อสำคัญ แต่ความเปลี่ยน แปลงนั้นไม่ประจักษ์ และตั๋วเงินนั้นตกอยู่ในมือผู้ทรงโดยชอบด้วย กฎหมายไซร้ท่านว่าผู้ทรงคนนั้นจะเอาประโยชน์จากตั๋วเงินนั้นก็ได้ เสมือนดั่งว่ามิได้มีการเปลี่ยนแปลงเลย และจะบังคับการใช้เงินตามเนื้อ ความแห่งตั๋วนั้นก็ได้

อะไรบ้างถือเป็นข้อความสำคัญ มาตรา 1007 วรรคท้าย

กล่าวโดยเฉพาะ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช่นจะกล่าวต่อไปนี้ ท่านถือ ว่าเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในข้อสำคัญ คือการแก้ไขเปลี่ยนแปลง อย่างใดๆ แก่วันที่ลงจำนวนเงินอันจะพึงใช้ เวลาใช้เงิน สถานที่ใช้เงิน กับทั้งเมื่อตั๋วเงินเขารับรองไว้ทั่วไป ไม่เจาะจงสถานที่ใช้เงินไปเติม ความระบุสถานที่ใช้เงินเข้าโดยที่ผู้รับรองมิได้ยินยอมด้วย

49 บทกฏหมายที่คุ้มครองธนาคารผู้จ่ายเงินตามเช็คมาตรา 1009

มาตรา 1009 ถ้ามีผู้นำตั๋วเงินชนิดจะพึงใช้เงินตามเขาสั่งเมื่อทวงถาม มาเบิกต่อธนาคารใด และธนาคารนั้นได้ใช้เงินให้ไปตามทางค้าปกติโดย สุจริตและปราศจากประมาทเลินเล่อไซร้ ท่านว่าธนาคารไม่มีหน้าที่จะ ต้องนำสืบว่าการสลักหลังของผู้รับเงิน หรือการสลักหลังในภายหลังราย ใด ๆ ได้ทำไปด้วยอาศัยรับมอบอำนาจแต่บุคคลซึ่งอ้างเอาเป็นเจ้าของ คำสลักหลังนั้นและถึงแม้ว่ารายการสลักหลังนั้นจะเป็นสลักหลังปลอม หรือปราศจากอำนาจก็ตาม ท่านให้ถือว่าธนาคารได้ใช้เงินไปถูกระเบียบ

50 หน้าที่ของผู้ทรงตั๋วเงินหายหรือถูกลัก มาตรา 1010

มาตรา 1010 เมื่อผู้ทรงตั๋วเงินซึ่งหายหรือถูกลักทราบเหตุแล้วในทันใดนั้นต้องบอกกล่าวเป็นหนังสือไปยังผู้ออกตั๋วเงิน ผู้จ่าย ผู้สมอ้างยามประสงค์ ผู้รับรองเพื่อแก้หน้าและผู้รับอาวัล ตามแต่มีเพื่อให้บอกปัดไม่ใช้เงินตามตั๋ว เงินนั้น

51 สิทธิของผู้ทรงที่ตั๋วเงินหายก่อนถึงกำหนดใช้เงิน มาตรา 1011

มาตรา 1011 ถ้าตั๋วเงินหายไปแต่ก่อนเวลาล่วงเลยกำหนดใช้เงิน ท่านว่าบุคคลซึ่งได้เป็นผู้ทรงตั๋วเงินนั้น จะร้องขอไปยังผู้สั่งจ่ายให้ให้ตั๋ว เงินเป็นเนื้อความเดียวกันแก่ตนใหม่อีกฉบับหนึ่งก็ได้ และในการนี้ถ้าเขา ประสงค์ก็วางประกันให้ไว้แก่ผู้สั่งจ่าย เพื่อไว้ทดแทนที่เขาหากจะต้องเสีย หายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดในกรณีที่ตั๋วเงินซึ่งว่าหายนั้นจะกลับหาได้

อนึ่ง ผู้สั่งจ่ายรับคำขอร้องดั่งว่ามานั้นแล้ว หากบอกปัดไม่ยอมให้ตั๋วเงิน คู่ฉบับเช่นนั้น อาจจะถูกบังคับให้ออกให้ก็ได้

ที่มา

http://www.peesirilaw.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538628745&Ntype=10

http://www.udru.ac.th/~lawudru/webboard/smf117/index.php?topic=6.0(สรุปตั๋วเงิน)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น